Gaslighting ทฤษฎีควบคุมจิตใจ พร้อมวิถีถอยห่างความสัมพันธ์
Gaslighting จากกรณีที่ผู้หญิงคนหนึ่ง ออกมาเปิดเผย เรื่องราวของ นักวิทยาศาสตร์คนหนึ่ง ว่าเขามีพฤติกรรม คุกคามทั้งกายและใจ จีบเขา โทรมาตอนกลางคืนทุกวัน แล้วเขาชอบพูดจารุนแรง ดูถูก ด่าทอ ซึ่งทำให้คนรู้สึกผิดถึงขั้นคิดฆ่าตัวตายด้วยซ้ำ บางคนต้องหนีและกลัวเขา มันจะกลายเป็นเหมือนฝันร้าย พฤติกรรมแบบนี้เรียกว่า “แก๊สไลท์ติ้ง” จนล่าสุดพิธีกรรายการ “Anything in the World is Physics” ได้ออกมาขอโทษ และยืนยันว่าจะไม่ทำอีก
ทำให้เกิดข้อสงสัย ในโลกโซเชียลถึงประเด็นที่ว่า ถ้าถูก “Gas ligh ting” เราผิดจริง หรือเป็นแค่ทฤษฎีควบคุมจิตใจ ล่าสุด ดร.นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกรมสุขภาพจิต เปิดเผยในรายการ “เปิดโต๊ะข่าว” มีข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้
Gasligh ting คืออะไร
คำว่า “Gas lighting” มาจากชื่อภาพยนตร์ในปี 1944 เกี่ยวกับสามี ที่ต้องการอ้างสิทธิ์ ในความมั่งคั่งของภรรยา โดยทำให้เธอเชื่อว่าเธอ กำลังป่วยเป็นโรคทางจิต พยายาม บอกเธอเรื่องโกหก ทุกรูปแบบ เพื่อให้เธอเข้าใจว่าเธอผิด ว่าทุกอย่างเป็นปกติ ยกเว้นเธอ ซึ่งนำไปสู่คำถามซ้ำซาก ไม่ว่าความคิดของตัวเอง จะผิดปกติหรือไม่ ก่อนที่คุณจะสูญเสีย ความเป็นตัวตน และถูกควบคุมอย่างสมบูรณ์ ไม่มีทางหนีรอด จากเหยื่อของทฤษฎี การควบคุมจิตใจนี้
“ทฤษฎี Gaslight ที่พูดถึงในปัจจุบัน คือ การต้องการควบคุมจิตใจอีกคน ด้วยการทำให้ความเชื่อของอีกฝ่ายนั้นผิด ถ้าคนนั้นเข้มแข็งจะควบคุมไม่ได้ แต่ผู้พูดจะค่อยๆ ปลูกเมล็ดพันธุ์ให้เขาคลางแคลงใจในตัวเอง ให้รู้สึกสงสัยไม่เชื่อมั่นในตัวเอง จนอีกฝ่ายเขารู้สึกว่าตัวเองตัวเล็กลงๆ ผู้พูดก็จะสามารถควบคุมเขาได้ง่ายขึ้น”
สรุปสั้นๆ ว่า คนทำ Gaslight คือคนที่มีความตั้งใจที่จะล้างสมอง เพื่อควบคุมบุคคลอื่น ทำให้ตัวเองรู้สึกเป็นผู้ชนะนั่นเอง
วิธีถอยห่างจากความสัมพันธ์เป็นพิษ
ข้อเสนอแนะประการหนึ่ง เพื่อหลีกเลี่ยง การถูกควบคุม โดยทฤษฎีนี้ คือเราต้องเรียนรู้ ที่จะตรวจสอบตัวเอง รู้วิธีถามคำถามและ ใช้มุมมองบุคคลที่สาม และอยู่ห่างจากความสัมพันธ์ ที่ทำให้คุณรู้สึกแย่
“เราจะไม่มีวันรู้ สิ่งที่เราทำถ้าเราไม่ตระหนัก ในขณะนั้นเรา ก็อาจจะไม่รู้ตัว ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่เมื่อเหตุการณ์จบลง เราจำเป็นต้องทบทวน เรื่องนี้อีกครั้ง เรากำลังถูกทำให้สูญเสียความมั่นใจ ตัวตนของฉัน หรือการรับรู้ความเป็นจริง ของเราบิดเบี้ยวไป? โดยที่มันไม่เกิดขึ้นจริง พยายามถอยห่าง จากความสัมพันธ์ ที่ดูไม่ดีสำหรับคุณ จากนั้นถามคำถาม เมื่อถามคำถาม ให้ใช้มุมมองบุคคลที่สาม หากสิ่งนี้เกิดขึ้นกับน้องชายของฉัน ฉันควรทำอย่างไร?”
อย่างไรก็ตาม G a slighting เป็นการพูดทำร้ายจิตใจผู้อื่น ยังไม่มีกฎหมายคุ้มครอง หรือเอาผิดอย่างจริงจัง เห็นได้ชัด เหมือนอย่างการคุกคามทางเพศ จะมีเพียงการลงโทษทางสังคม เช่น การยุติบทบาท เท่านั้น จึงขอให้ทุกคนหมั่นเช็ก สังเกตตัวเอง และคนรอบข้างว่ากำลัง เป็นแบบนี้อยู่หรือไม่ แล้วหาแนวทางเยียวยาจิตใจกันและกัน เพราะหากจิตใจของเรายังเข้มแข็ง จะไม่มีใครสามารถทำ Gas li gh ting ได้